หิมะละลาย


 


The Killers (1958)


There Will Be No Leave Today (1959)

The Steamroller and the Violin (1960)


 


<<< | 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | >>>

ปี 1953 อันเป็นปีที่สตาลินตาย และหนึ่งปีก่อนที่อังเดรย์จะเข้าศึกษาใน VGIK นั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญทางการเมืองและสังคมของรัสเซีย อันถือเป็นโอกาสสำคัญของคนทำหนังในรุ่นดังกล่าว

อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของโซเวียตอยู่ในความควบคุมของรัฐมาตั้งแต่ปี 1919 โดยมีองค์กรชื่อ Goskino (คณะกรรมการภาพยนตร์ของรัฐ) ที่ถูกตั้งขึ้นในปี 1922เป็นผู้ควบคุมแต่หลังมรณกรรมของสตาลิน โดยเฉพาะหลังการประชุมสภาพรรคครั้งที่ 20 ในเดือนกุมภาพันธ์ 1956 ที่ครุชเชฟ (Khrushchev) ประณามอาชญากรรมที่สตาลินทำ ทำให้โซเวียตเปิดกว้างมากขึ้น รัฐบาลตัดสินใจที่จะเพิ่มการผลิตภาพยนตร์มากขึ้น เพื่อนำไปสู่บรรยากาศทางการเมืองและสังคมที่ผ่อนคลายและเสรีขึ้น นโยบายดังกล่าวนำรัสเซียเข้าสู่ยุค ‘Thaw’ (หิมะละลาย)

เนื่องจาก VGIK ไม่มีอุปกรณ์เพียงพอสำหรับนักเรียนทุกคน นักเรียนจึงต้องทำงานกันเป็นกลุ่ม ทาร์คอฟสกี้จึงได้กำกับหนังสั้นเรื่อง The Killers (Ubijtsi) ร่วมกับ Alexander Gordon และ Marika Beiku โดยดัดแปลงมาจากเรื่องของเออร์เนสต์ เฮมมิ่งเวย์ นับเป็นครั้งแรกที่ VGIK อนุญาตให้นักเรียนทำหนังจากบทประพันธ์ของนักเขียนต่างชาติ

The Killers เป็นเรื่องเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่บุกเข้าไปจี้เจ้าของบาร์เล็กๆแห่งหนึ่ง เพื่อหลบซ่อนอยู่หลังร้าน รอให้เหยื่อที่เขาต้องการสังหาร มาที่บาร์แห่งนี้ตามปกติ

ทาร์คอฟสกี้ร่วมแสดงเป็นลูกค้าคนหนึ่งในบาร์ ที่เดินเข้ามาพร้อมกับผิวปากเป็นเพลง ‘Lullaby of Birdland’ ที่เขาได้ฟังจากการออกอากาศของ ‘เสียงแห่งอเมริกา’ ซึ่งในทศวรรษที่ 1950 เพลงนี้เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเสรีภาพ The Killers ได้รับคำชมอย่างมากจาก Romm

There Will Be No Leave Today เปิดเรื่องด้วยการค้นพบวัตถุระเบิดของนาซีจำนวนมาก ซึ่งถูกฝังอยู่ใต้ดินมาเป็นเวลากว่า 15 ปี แต่ปัญหาคือบริเวณนั้นได้กลายเป็นเมืองขนาดใหญ่ไปแล้ว จึงต้องมีการอพยพผู้คนออกจากเมืองก่อนการเคลื่อนย้ายวัตถุระเบิดออกไป ตัวละครเอกของหนังเป็นนายทหารหนุ่มที่ต้องเสี่ยงชีวิตทำการขนย้ายระเบิด โดยไม่ได้หยุดในวันหยุด (ตามชื่อหนัง) อย่างไรก็ดี แม้ทาร์คอฟสกี้จะแสดงฝีมือในการสร้างบรรยากาศตึงเครียดในหนังได้เป็นอย่างดี แต่สุดท้ายแล้ว หนังสั้นเรื่องนี้ก็เป็นเหมือนหนังสดุดีวีรกรรมของทหารรัสเซีย เท่านั้นเอง

The Steamroller and the Violin เป็นหนังเรื่องแรกที่เขากำกับเพียงผู้เดียว เขาร่วมเขียนบทกับ Konchalovsky และได้ Vadim Yusov มาถ่ายภาพ ซึ่งทั้งคู่ก็ยังได้ร่วมงานกับทาร์คอฟสกี้อีกหลายครั้งในช่วงที่เขาทำหนังยาว

The Steamroller and the Violin เป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กชายนักเรียนไวโอลินที่มักถูกเพื่อนแกล้ง วันหนึ่งหนุ่มคนขับรถบดถนนได้เข้ามาช่วยไว้ ทั้งสองจึงได้เป็นเพื่อนกัน เด็กชายได้ลองขับรถบด และเล่นไวโอลินให้ชายหนุ่มฟัง ทั้งสองนัดว่าจะไปดูหนังกัน แต่เมื่อถึงเวลา แม่ของเด็กชายไม่อนุญาตให้ไป ส่วนชายหนุ่มเมื่อไม่เห็นเด็กชาย จึงตัดสินใจไปดูหนังกับหญิงสาวที่ชอบพอกับเขาแทน

หนังถือเป็นส่วนหนึ่งในยุคที่กระแสหนังเด็กกำลังมาแรงในรัสเซีย และยังเป็นการเชิดชูชนชั้นแรงงานตามอุดมคติคอมมิวนิสต์ แต่อุดมไปด้วยความงามทางด้านภาพมากมาย เช่นฉากเงาสะท้อนในกระจก เงาสะท้อนในน้ำ เม็ดฝนที่ร่วงหล่น โดยเฉพาะฉากตึกที่ถูกทำลาย รวมถึงฉากความฝันในตอนจบ

 

 

 
 


ฝันกลางฤดูร้อน

 












Ivan's Childhood หรือ My Name Is Ivan (1962) ดัดแปลงจากหนังสือของ Vladimir Bogomolov เกี่ยวกับอีวานเด็กกำพร้าอายุ 12 ปี ในช่วงสงคราม ที่ทำหน้าที่ลอบเข้าไปสอดแนมในกองทัพของศัตรู เขาได้รับความเอ็นดูอย่างมากจากร้อยเอก Kholin ที่ตั้งใจจะรับอีวานเป็นลูกบุญธรรม และได้พบกับร้อยโทหนุ่ม Galtsev ที่แอบชอบนางพยาบาลในค่าย

Ivan's Childhood เปิดเรื่องเมื่ออีวานกลับมาที่ค่ายหลังจากที่ปฏิบัติภารกิจหนึ่งสำเร็จ และจบลงเมื่ออีวานออกไปทำภารกิจสุดท้าย

ทาร์คอฟสกี้รับหน้าที่ผู้กำกับหนังเรื่องนี้ต่อจากคนอื่นที่ถอนตัวไป (E. Abalov) และเขามีตัวเลือกในใจอยู่แล้วสำหรับบทอีวาน นั่นคือ Nikolai Burlyaev ซึ่งแสดงในหนังวิทยานิพนธ์ของ Konchalovsky

ขณะที่บทเดิมของ Bogomolov เลือกที่จะเสนอภาพความโหดร้ายของสงครามและชะตาชีวิตของอีวานอย่างเป็นจริง ทาร์คอฟสกี้กลับตัดสินใจใส่ฉากความฝัน 4 ฉากเข้าไป เพื่อให้หนังเกิดพลังแบบบทกวี รวมทั้งเพื่อแสดงการโหยหาช่วงเวลาอันแสนสุขที่หายวับไปของอีวานเมื่อเกิดสงครามขึ้น ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นโศกนาฏกรรมของการสูญเสียความบริสุทธิ์ของวัยเยาว์ที่จะระลึกถึงได้ก็แต่ในความฝัน เพราะความจริงนั้นโหดร้ายและไม่ ‘งาม’ อย่างในฝัน

Ivan's Childhood นับเป็นหนังเรื่องแรกที่ทาร์คอฟสกี้จับความงามของธรรมชาติได้อย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะในความจริงหรือในความฝัน ในสมรภูมิหรือในหลุมหลบภัย โลกของทาร์คอฟสกี้ล้วนงามติดตรึง และแสดงพลังของธรรมชาติออกมาอย่างที่มันควรจะเป็น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่อาจสังเกตเห็นได้ในยามปกติ

ก่อนออกฉาย หนังถูกทางการโซเวียตตั้งคณะกรรมการพิจารณา ซึ่งได้มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการใช้ภาพข่าวสารคดีสงครามและภาพศพว่าดูโหดร้ายเกินไป รวมถึงฉากรักในหนัง โดยเฉพาะเมื่อมองว่า Ivan's Childhood เป็นหนังเด็ก แต่ด้วยความช่วยเหลือของ Romm ที่ยืนกรานว่า หนังเรื่องนี้ “เต็มไปด้วยพลัง” และซีนเหล่านั้นเป็นสิ่งจำเป็นในหนัง ทำให้ในที่สุด หนัง ก็ได้ออกฉายโดยไม่ต้องตัดอะไรเลย

Ivan's Childhood ได้รางวัลสิงโตทองคำที่เวนิซ เขากลายเป็นผู้กำกับรัสเซียที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รางวัลระดับโลก ในปีเดียวกัน Konchalovsky พาหนังสั้นของเขา The Boy and the Dove ไปคว้ารางวัลหนังสั้นยอดเยี่ยมในเวทีเดียวกัน


ทาร์คอฟสกี้ที่เวนิซ

ตรงข้ามกับทางการโซเวียต นักวิจารณ์ยุโรปเรียก Ivan's Childhood ว่าเป็นหนังของพวกกระฎุมพี ซึ่งไม่เข้ากับกระแสสังคมนิยมที่กำลังมาแรงในยุโรปขณะนั้น แต่ ฌอง ปอล ซาร์ต (Jean-Paul Sartre ) กลับเขียนบทความปกป้อง และเรียกหนังว่าเป็น ‘ สังคมนิยมเหนือจริง’ (Socialist Surrealism) เขาวิเคราะห์ว่า อีวานเป็นได้ทั้งเด็กบริสุทธิ์ที่โหยหาความรัก และปีศาจที่ในส่วนลึกแล้วมีแต่ความรุนแรง ใช้ชีวิตเพียงเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่จะล้างแค้น เหมือนเด็กๆที่เป็นเหยื่อในสงครามแอลจีเรีย ที่ไม่สามารถแยกความน่าสะพรึงกลัวกลางวันแสกๆของความจริงออกจากความฝันได้

อิงมาร์ เบิร์กมัน (Ingmar Bergman) กล่าวถึง Ivan's Childhood ไว้ว่า

“การค้นพบหนังเรื่องแรกของทาร์คอฟสกี้ของผมเป็นเหมือนปาฏิหาริย์ ในฉับพลันผมพบตัวเองยืนอยู่หน้าประตูห้องห้องหนึ่ง ซึ่งจนถึงขณะนั้นผมก็ยังไม่ได้รับกุญแจ มันเป็นห้องที่ผมอยากเข้าไปอยู่เสมอมา แต่เขา (ทาร์คอฟสกี้) กลับเข้าออกได้อย่างง่ายดาย ผมรู้สึกตื่นเต้น : มีใครบางคนกำลังแสดง สิ่งที่ผมต้องการจะพูดเสมอมา แต่ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร

สำหรับผม ทาร์คอฟสกี้ยิ่งใหญ่ที่สุด เขาสร้างภาษาใหม่ และเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงธรรมชาติของภาพยนตร์ เมื่อมันจับชีวิตไว้ราวกับภาพสะท้อน ชีวิตที่ราวกับความฝัน”

ในปี 1962 นี้เองที่หนังสือรวมบทกวีเล่มแรกของอาร์เซนีได้รับการตีพิมพ์ ทาร์คอฟสกี้ยกย่องพ่อของเขาว่าเป็นกวีร่วมสมัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ขณะที่นักวิจารณ์เรียกเขาว่าเป็นกวีที่มีฝีมือดีคนหนึ่งเท่านั้น

 

 
     
 
<<<
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | >>>